นี่เป็นเรื่องที่เราก๊อปเค้ามาอะค่ะไครเคยอ่านแล้วก็ขอโทษด้วยน ะค่ะ
ผมชื่อบอยครับ เป็นคนทางภาคอีสาน ก็อย่างว่าครับขึ้นชื่ออีสานมันก็ต้องแห้งแล้งเป็นเรื่องธรรมดา ผู้คนหนีออก จากถิ่นกำเนิดไปตายเอาดาบหน้า ผมก็เป็นอีกคนครับที่หนีออกจากบ้านเกิดออกมาเพื่อปากท้องของตัว เองและครอบครัว ผมย้ายออกมาจากถิ่นมาตั้งหลักที่นนทบุรี มาเช่าบ้านอยู่กับพี่ชาย ก็เลยยึดอาชีพขายของตามตลาดนัดต่างๆ มันก็เป็นอาชีพที่พอจะเลี้ยงตัวรอด บ้านที่ผมมาเช่าอยู่นั้นมันเป็นบ้านเล็กๆ ติดๆ กัน เรียกว่าเอื้อมมือก็ถึงกันแล้ว เรื่องของเรื่องมันก็อยู่ตรงนี้แหละครับ บ้านที่ผมเช่าอยู่มันอยู่ติดกับบ้านที่แม่ม่ายมาเช่าอยู่ก่อนหน ้านี้แล้ว
เธอไม่มีลูก ผัวตายมาหลายปีแล้วก็ไม่ยอมแต่งงานใหม่ เธอมีอาชีพค้าขายเหมือนกันกับผม เธอชื่อเล็ก พี่เล็กคนนี้เป็นคนสวยมากครับ รูปร่างก็ดี ผิวขาว เต้านมใหญ่ บั้นท้ายกลมกลึงเหมือนกับสาวๆ แต่ที่ผมประทับใจพี่เล็กคนนี้มากเป็นพิเศษก็ตรงที่ พี่เล็กมักชอบที่จะใส่เสื้อยืดที่พอดีกับตัวเสมอ ผมเห็นทีไรกลัวว่าเสื้อมันจะขาดเหลือเกินครับ ก็จะอะไรล่ะครับก็เต้านมคู่งาม คู่นั้นสิครับ พี่เล็กใส่ทีไรผมมักแอบมองเสมอ เนินสวาทที่มันติดอยู่ที่หว่างขาพี่เล็กมันก็ไม่เล็กเหมือนชื่อ เลยครับ มันเหมือนเอาอะไรสักอย่างที่มันเป็นก้อนไปใส่ที่ตรงนั้น มันโหนกมันนูนอวบเด่นเป็นสง่า มันน่าแปลกมากครับ คนอื่นที่เขาใส่กันมันจะใส่เสื้อที่ตัวใหญ่ปิดเอาไว้ตรงที่หว่า งขา แต่พี่เล็กแกไม่อย่างนั้นครับ ไม่เคยเอาเสื้อมาปิดเลยครับ
มักจะปล่อยหราอวดสายตาเพศตรงข้ามเสมอ ยิ่งเป็นเพศเดียวกันไม่ต้องพูดถึงเลย ค้อนตากลับแล้วกลับอีก คงจะไม่มี เหมือนพี่เล็กเลยอิจฉากันทั้งซอย แต่พี่เล็กแกก็ไม่สนใจใครทั้งนั้น คงคิดว่ามีของดีเอาไว้ต้องอวด ส่วนผมก็คอยแอบมอง อย่างเดียวเท่านั้น เคยคิดเอาไว้อยู่เหมือนกันครับว่าถ้ามีโอกาส ต้องขอดูของจริงให้เป็นบุญตาสักครั้งครับ ยิ่งบ้านติดกันอย่างนี้ต้องหาทางแอบดูให้ได้ ผมเกือบลืมบอกไปครับ ว่าพี่เล็กแกไม่ได้อยู่คนเดียวเท่านั้น พี่เล็กแกมีหมา ตัวโปรดอยู่ตัวหนึ่งครับ พี่เล็กแกรักตัวนี้มากเลย พี่เล็กแกคงเหงา ก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนกัน
และแล้ววันที่ฟ้าประทานก็มาถึง มันเป็นแบบที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวเลยครับ วันนั้นผมรู้สึกไม่สบายเลยต้องหยุดขายของ ให้พี่ออกขายคนเดียว กว่าที่พี่ผมจะกลับมาก็เกือบสี่ทุ่มกว่า ผมกินยาแล้วก็นอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
ผมมารู้สึกตัวอีกที ก็เกือบสองทุ่มเข้าไปแล้ว ตื่นมามันก็ค่อยหายไม่สบายหน่อย ลุกขึ้นจะเดินไปเปิดไฟ แต่แล้วผมก็ต้องชะงักมือเอาไว้ เมื่อผมได้ยินเสียงครวญครางของหมาที่พี่เล็กเลี้ยงเอาไว้ ด้วยความสงสัยผมเปิดหน้าต่างออก แล้วผมก็ต้องยืนตัวแข็งทื่อ เลยครับ หน้าต่างที่บ้านของพี่เล็กที่เปิดแง้มอยู่ มันทำให้ผมพอที่จะมองเห็นภาพที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็น พี่เล็กนุ่งผ้าถุงกระโจมอก นั่งอยู่โดยมีหมาที่พี่เล็กเลี้ยงเอาไว้นอนหงายตรงนั้น ผมเห็นมือข้างหนึ่งของพี่เล็กขยับไปขยับมา ผมมองไม่เห็นเพราะขอบหน้าต่างมันบังอยู่ ผมรีบเอาเก้าอี้มาตั้งแล้วปีนขึ้นมอง ผมแทบไม่ชื่อสายตาตัวเองเลยครับ พี่เล็กจับนายหนูของหมารูดกระทอกไปมาจนมันโผล่ออกมาสีแดงยาวเกื อบคืบ บางครั้งก็ก้มหน้าลงไปจูบที่ปากหมา มือก็รูดกระทอกไปมาอย่างต่อเนื่อง แล้วพี่เล็กก็ลุกขึ้นดึงผ้าถุงออก ก้าวขาขึ้นคร่อมหมาแล้วค่อยๆ หย่อนบั้นท้ายลง เอามือจับนายหนูของหมามาจ่อที่ร่องเสียวแล้วกดบั้นท้ายลง ผมเห็นมันค่อยๆ จมหายลงในร่องเสียว แล้วพี่เล็กก็โยกขึ้นโยกลง บางครั้งก็บดส่ายบั้นท้ายวน แล้วพี่เล็กก็เปลี่ยนท่ามาเป็นท่าคลาน หมาที่พี่เล็กเลี้ยงไว้มันก็ช่างเป็นหมาที่รู้ใจเหลือเกิน โดดขึ้นเอาขาหน้าพาดที่หลังพี่เล็ก แล้วมันก็เด้งบั้นท้ายซอยถี่ยิบ ทีนี้ทั้งคนทั้งหมาก็ครางแข่งกัน ครู่เดียวเท่านั้น พี่เล็กก็สะดุ้งตัวเกร็งสั่นล้มตัวลงนอน แล้วพี่เล็กก็ลุกขึ้นเดินหายเข้าห้องไป ผมนึกไม่ถึงจริงๆ เลยครับว่าพี่เล็กแกจะเล่นเสียว กับหมาที่แกเลี้ยงเอาไว้ ผมว่าพี่เล็กแกคงหงี่มาก เพราะห่างจากผัวมานาน ห่างท่อนทวนมาควานในร่องเสียวแน่ๆ
ตั้งแต่เกิดมาก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยครับที่เห็นแบบนี้ มันไม่ใช่แต่พี่เล็กเท่านั้นครับที่เสียว ผมก็เริ่มเสียวเหมือนกัน นึกอิจฉาหมาเหลือเกินครับ มันเกิดมาโชคดีกว่าผมหลายเท่านัก มันเกิดมาก็มีคนเลี้ยงไม่ต้องมาทำงาน ไม่ต้องต่อสู้ แถมเจ้านายยังให้มันเล่นเสียวอีก ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยที่จะได้ลิ้มชิมรสผู้หญิงเลยครับ เมื่อไหร่ฟ้าจะเมตตาปรานี ให้ได้ลิ้มชิมรสพี่เล็กสักที ผมอยากจะรู้จริงๆ ครับว่าไปอุ่นจากเต้ามันเป็นอย่างไรกัน พี่เล็กเดินหายไปนานแล้วคงจะไม่กลับ มาอีกแล้ว ผมลงจากเก้าอี้นั่งคิดวางแผนเอาก็เอาวะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่า งมัน ขออย่างเดียวเท่านั้นขอฟันพี่เล็กสักครั้งทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยลองเรื่องผู้หญิง คิดไปคิดมานี่ผมสงสัยเป็นบ้าไปแล้วแน่นอนเลยครับ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ไม่มีทางแน่ๆ พอเช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าเลยครับ ผมรู้สึกว่าเช้านี้มันเป็นเช้าที่แปลกยังไงก็บอกไม่ถูกครับ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ยังไงก็ไม่รู้ครับ “เป็นไงบ้าง หายดีหรือยังล่ะ วันนี้ออกขายของไหวหรือเปล่า” “สงสัยไม่ไหว ขอหยุดอีกวันนะ” “เออ..ตามใจ อย่าลืมกินยาล่ะ” “แล้ววันนี้ขายที่เดิมหรือเปล่า” “ก็ที่เดิม อ้อ..เกือบลืมเลย พี่เล็กเรียกเอ็งอยู่เมื่อกี๊นี้ เดี๋ยวเอ็งเดินไปหาด้วยล่ะ ไม่รู้มีเรื่องอะไรเหมือนกัน” พอพี่ผมพูดถึงพี่เล็กเท่านั้น หูผึ่งเลยครับ ก็พี่เล็กเป็นขวัญใจผมนี่ครับ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปที่บ้านพี่เล็ก ไม่รู้ว่าพี่เล็กต้องการอะไร แต่ยังไงก็แล้วแต่ เดี๋ยวต้องขอแอบมองดูรูปร่างของ พี่เล็กสักหน่อยก็ยังดี “พี่เล็ก มีอะไรเหรอครับ”
“อ้าว.. ตื่นนานแล้วเหรอ เมื่อกี๊พี่ไปหาเธอที่บ้านเห็นว่ายังหลับอยู่” “ครับพี่ เมื่อคืนกินยาแก้ไข้ เลยตื่นสายเลย” “อ้าว.. เมื่อวานไม่ได้ออกขายของหรือไง” “เปล่าครับพี่ ไม่ได้ออก” “งั้นเดี๋ยววันนี้พี่ขอแรงหน่อยนะ มาช่วยพี่หน่อย” “อ้อ ได้ครับพี่ งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ กินข้าวก่อน เดี๋ยวเดียวครับพี่”
พี่เล็กพยักหน้า ผมลงมาเดินกลับเข้าบ้าน นึกอยู่ในใจว่าวันนี้เป็นโชคดีแล้วที่ได้อยู่ใกล้ชิดพี่เล็ก ต้องขอแอบมอง ทั้งวันเลย ผมรีบกินข้าวแล้วเดินกลับมาบ้านพี่เล็ก พี่เล็กเปลี่ยนชุดเห็นกางเกงยืดรัดรูปเสื้อยืดตัวสั้น ผมรีบแอบมองที่เป้า อย่างเร็ว มันใหญ่เหลือเกินครับ เห็นแล้วเสียววูบทั้งตัว ส่วนเสื้อยืดตั้วนั้นมันก็รัดเต้านมออกมาเป็นรูปเป็นร่าง เนื้อตัวผมสั่นระริกเลย “อ้าว.. เข้ามาสิ ยืนจ้องพี่อยู่ได้ เป็นอะไรหรือเปล่า” “เปล่าครับพี่ ไม่มีอะไรหรอกครับ” ผมตกใจรีบเดินเข้าบ้าน เกือบซวยแล้วเรา ดันจ้องแบบลืมตัว พอเข้ามาในบ้านผมก็หยิบไม้กวาดเอามาปัดใยแมงมุม ที่ติดที่ข้างฝา ส่วนพี่เล็กหายเข้าไปสักครู่ก็ออกมา เอาไม้กวาดมาช่วยผม หัวจิตหัวใจผมมันเต้นโครมครามเลยครับ ก็พี่เล็กแกมายืนข้างๆ ผมแล้วเอื้อมมือขึ้นปัดใยแมงมุมที่ติดที่ข้างฝา เต้านมที่ใหญ่จนเสื้อเกือบขาดมันก็เบ่งออก ผมเหล่ตามองคิดไปคิดมาผมแกล้งทำเป็นไม้กวาดหล่นแล้วก้มลงเก็บ
เดี๋ยวมาต่อค่ะ