กางเขนทอง
-1-
73 ปีก่อนคริสตกาล ทาสคนหนึ่งหลบหนีจากค่ายกักกันไปหลบในเขาวิซูเวียส ใกล้เมืองเนเปิลส์ เขาไม่ได้หนีไปคนเดียว เพื่อนทาสอีกเจ็ดสิบคนติดตามเขาไปด้วย
เขามีนามว่า สปาร์คาคัส เดิมเป็นทหารชาวเธรเซียน ถูกจับเป็นทาสเพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่า (กลาดิเอเตอร์) ความรักอิสรภาพทำให้เขาตัดสินประกาศความเป็นไทด้วยตัวเอง
ไม่นานทาสอีกมากมายก็มาสมทบ จำนวนทาสที่ชุมนุมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเก้าหมื่นคน จำนวนทาสมากมายเช่นนี้เป็นสัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงแห่งรัฐโร ม สภาแห่งโรมส่งทหารสามพันนายไปปราบ กองกำลังของทาสกบฏซอกแซกอ้อมเขาไปโผล่ที่ด้านหลังของกองทหารโรม ัน และบดขยี้ทหารโรมันราบคาบ
แต่นั้นไป ทาสที่เลือกปลดแอกตัวเองไม่มีทางเลือก การรักษาสถานะความเป็นไททำได้อย่างเดียวคือสงคราม
กองกำลังของสปาร์ตาคัสทำลายกองทัพโรมันที่ส่งไปปราบอีกหลายครั้ ง ทหารของเขามีทั้งชาย หญิง คนแก่ และเด็ก ล้วนเป็นประชาชนเดินดินที่ไม่ยอมเป็นทาส โรมันส่งกองทัพขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไปปราบ แต่ก็พ่ายแพ้เหล่าทาส
ในที่สุดโรมก็ระดมขุนศึกชั้นยอด เครซูสจากโรม ปอมปีย์จากฮิสปาเนีย และลูคัสลัสจากอนาโตเลียเหนือ แยกไปจัดการทำลายทาสกบฏให้สิ้นซาก
สปาร์ตาคัสฝ่าจากวงล้อมกองทัพแปดกองนำโดยเครซูสที่คาลา เบรีย แต่ทหารโรมันก็ตามพวกเขาทันที่ลูคาเนีย
71 ปีก่อนคริสตกาล สปาร์ตาคัสและทาสนักรบหกพันคนถูกตรึงตายทั้งเป็นบนกางเขน ปักเรียงรายระหว่างเส้นทางจากเมืองคาปัวถึงโรม คำสั่งจากโรมคือห้ามนำศพลง ดังนั้นผู้เดินทางในเส้นทางนั้นจึงเห็นซากศพตลอดทางนั้นเป็นระย ะเวลาหลายปี
สปาร์ตาคัสย่อมรู้ดีในวันที่เขาตัดสินใจหนีว่า เขามีสองทางเลือก อยู่อย่างทาสหรือตายอย่างเป็นไท
เขาเลือกความเป็นไท
-2-
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จขึ้นครองราชย์นั้น พลเมืองกว่าหนึ่งในสามของสยามเป็นทาส ด้วยเหตุว่าความเป็นทาสเป็นสถานะที่ประทับตราตลอดชีวิต ลูกหลานที่เกิดมาต้องเป็นทาสตามพ่อแม่ไปด้วย เรียกว่า ลูกทาสในเรือนเบี้ย
เวลานั้นราคาลูกทาสในเรือนเบี้ยคือ ชาย 14 ตำลึง หญิง 12 ตำลึง เมื่อเป็นทาสจนกระทั่งชายอายุ 40 หญิงอายุ 30 จึงมีการลดหย่อนค่าตัวลงบ้าง แต่ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่ทาสจะสลัดตัวเองเป็นอิสระ เพราะด้วยอัตราการลดนี้ ยากจะเป็นไทแม้เมื่ออายุถึงหนึ่งร้อยปี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงตราพระราชบัญญัติเลิกทาสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 มีผลบังคับย้อนหลังถึงปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ให้ทาสรับสิทธิลดค่าตัวทุกปี โดยกำหนดว่า เมื่อแรกเกิด ชายมีค่าตัว 8 ตำลึง หญิงมีค่าตัว 7 ตำลึง และให้ลดค่าตัวไปเรื่อยๆ เมื่อถึงอายุ 21 ปี ก็ให้เป็นไทโดยไม่มีข้อแม้ ต่อมาทรงออกพระราชบัญญัติทาส ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ให้ลูกทาสในเรือนเบี้ยทั้งมวลเป็นอิสระ การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา
-3-
สองพันกว่าปีหลังจากความตายของสปาร์ตาคัสและกบฏทาส หนึ่งร้อยปีหลังจากพระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124 โลกไม่ได้หมุนไปสู่ยุคไร้ทาสอย่างสิ้นเชิง
สินค้าแบนด์เนมผุดโผล่ท่วมโลก ศูนย์การค้าใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โลกเข้าสู่ระบบบริโภคนิยมเต็มรูปแบบ เด็กหนีเรียนไปเล่นเกม สตรีบางคนยินดีแลกเรือนร่างกับกระเป๋าถือติดตราแบรนด์เนมจากบาง เมืองหลวงตะวันตก โทรศัพท์มือถือก้าวจากความจำเป็นสู่สถานะทางสังคม หลายคนกู้เงินมาซื้อหุ้น สถานะในสังคมวัดกันด้วยจำนวนบัตรพลาสติกในกระเป๋า ทุกสิ่งซื้อหาได้แม้แต่โชคชะตา
บางทีตลอดทางสายยาวของมนุษยชาติ เราอาจไม่มีวันเลิกทาสได้ ด้วยผู้คนยินดีให้ตรึงร่างของพวกเขาบนกางเขนทองแห่งความฟุ้งเฟ้ อ
เพราะสิ่งที่ปลดออกยากที่สุดคือโซ่ตรวนแห่งปัญญาที่เราผูกล่ามต ัวเราเอง
วินทร์ เลียววาริณ
www.winbookclub.com
10 ธันวาคม 2548
กางเขนทอง
Posted in เล่าเรื่องเสียว.